วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 – สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT) โดย ม.ร.ว.นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ เดินหน้ายกระดับขีดความสามารถดิจิทัลของไทย ประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญกับ สภาธุรกิจรัสเซีย-ไทย (RTBC) โดย Mr. Ivan Demchenko ประธานสภาธุรกิจรัสเซีย-ไทย ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และนวัตกรรม เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับทั้งสองประเทศ ณ โรงแรม Pullman Phuket Karon Beach Resort จังหวัดภูเก็ต
พิธีลงนามดังกล่าวจัดขึ้นภายในงาน Russia–Thailand Investment Forum 2025 (RTIF 2025) ท่ามกลางสักขีพยานจากภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศ สาระสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ ครอบคลุมการส่งเสริมการลงทุนที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายความเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการไทยและรัสเซียผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และการประชุมสัมมนา นอกจากนี้ ยังเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ เช่น องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) ของอุตสาหกรรมและประเทศ และนโยบายสาธารณะที่เอื้อต่ออุตสาหกรรมดิจิทัล ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือในด้านนวัตกรรม ที่ครอบคลุมมิติการพัฒนากำลังคน และการทำพัฒนางานวิจัยร่วมกัน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัลของทั้งสองประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
ม.ร.ว.นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Russia and Thailand: Investing in a Common Future” โดยเน้นย้ำว่า ก้าวต่อไปของการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่สินค้าที่จับต้องได้ (Physical Goods) อีกต่อไป หากแต่หัวใจสำคัญอยู่ที่ “เศรษฐกิจดิจิทัล” ซึ่งทั้งประเทศไทยและรัสเซียต่างเล็งเห็นตรงกันว่า ความร่วมมือด้านดิจิทัลจะนำไปสู่ขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว โดยการเปลี่ยนผ่านไปสู่ “การร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี” (Co-developing technology) ซึ่งครอบคลุมความร่วมมือในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบคลาวด์ (Cloud) เทคโนโลยีการแพทย์ (MedTech) และเทคโนโลยีอาหาร (FoodTech) เพื่อยกระดับการค้าระหว่างสองประเทศ และสร้างประโยชน์แก่ภาคธุรกิจและประชาชน
ม.ร.ว.นงคราญ ยังได้ชี้ให้เห็นถึงการผนึกกำลังจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย โดยระบุว่า รัสเซียมีความเป็นเลิศระดับโลกด้านเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) และคอมพิวติ้งขั้นสูง (Advanced Computing) ซึ่งศักยภาพเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญที่ประเทศไทยต้องการ เพื่อเร่งการเติบโตทางดิจิทัลแบบก้าวกระโดด และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เศรษฐกิจดิจิทัลของชาติ ในขณะที่ประเทศไทย มีจุดแข็งในด้านสังคมที่มีการเปิดรับเทคโนโลยีดิจิทัลสูง และเป็นประตูยุทธศาสตร์สู่ตลาดอาเซียน พร้อมด้วยนโยบายรัฐที่สนับสนุนนวัตกรรมและการลงทุนจากภาครัฐ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงเทคโนโลยีสู่ภูมิภาค
ในโอกาสนี้ นางสาวอรมดี ปุรผาติ กรรมการและปฏิคม สภาดิจิทัลฯ ได้ร่วมเป็นวิทยากรเสวนาในหัวข้อ Prospects for co-production and international sales of animated films: Cinema, Culture, Music, Art โดยได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับทิศทางอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ และโอกาสในการขยายตลาดภาพยนตร์แอนิเมชัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล
ขณะเดียวกัน ดร.อธิป อัศวานันท์ ผู้อำนวยการสภาดิจิทัลฯ ได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในเวทีเสวนาหัวข้อ “Innovation Solution and AI in Education” เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี AI เข้ามามีส่วนช่วยยกระดับระบบการศึกษา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนากำลังคนดิจิทัล ให้พร้อมรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่
ความร่วมมือภายใต้ MOU นี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการดึงดูดการลงทุนและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าสู่ประเทศไทย พร้อมตอกย้ำบทบาทผู้นำดิจิทัลในภูมิภาคได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ การประชุม Russia-Thailand Investment Forum ถือเป็นเวทีสำคัญสำหรับการสร้างสายสัมพันธ์ทางธุรกิจระยะยาวระหว่างบริษัทรัสเซียและไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน และผลักดันให้เกิดการดำเนินโครงการลงทุนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม
การประชุมนี้จัดขึ้นโดย สภาธุรกิจรัสเซีย-ไทย (Russia-Thailand Business Council) (สมาคมเพื่อการพัฒนาผู้ประกอบการและสนับสนุนความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับประเทศไทย) ซึ่งถือเป็นหน่วยงานหลักของรัสเซียในการส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจและการลงทุน สร้างความเข้มแข็งให้แก่เครือข่ายธุรกิจ รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือระยะยาวระหว่างรัสเซียและไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งสองฝ่าย










