วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568 - สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย นำโดย ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ พร้อมคณะกรรมการของสภาดิจิทัลฯ ร่วมประชุมคณะกรรมการสภาดิจิทัลฯ ครั้งที่ 3/2568 เพื่อหารือความคืบหน้าโครงการสำคัญและวางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน การประชุมครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของสภาดิจิทัลฯ ในการวางรากฐานและกำหนดทิศทาง เพื่อสร้างเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่แข็งแกร่งและยั่งยืนสำหรับประเทศไทยในอนาคต

ม.ร.ว. นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าวถึงกิจกรรมสำคัญที่จัดขึ้นระหว่างเดือนมีนาคม – มิถุนายน 2568 ซึ่งครอบคลุมการสัมมนา อบรมเชิงปฏิบัติการ และพิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน กิจกรรมเหล่านี้มุ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนาด้านดิจิทัลในหลากหลายมิติ เช่น เทคโนโลยี AI การเข้าถึงเทคโนโลยีสำหรับผู้พิการ การพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับครูและนักเรียน รวมถึงความมั่นคงทางไซเบอร์ นอกจากนี้ คณะผู้บริหารของสภาดิจิทัลฯ ยังได้เข้าร่วมเวทีประชุมระดับนานาชาติ เช่น UNESCO GFEAI 2025 และได้ร่วมนำเสนอแนวทางยุทธศาสตร์ ในการประชุมขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้าน AI แห่งชาติ ร่วมกับรัฐบาล ในฐานะองค์กรหลักด้านนโยบายดิจิทัลของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการพัฒนา AI ของภูมิภาค

โดยการประชุมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากสมาชิกและคณะทำงาน สภาดิจิทัลฯ ร่วมนำเสนอแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

ดร.เทพชัย ทรัพย์นิธิ นายกสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT) นำเสนอวิสัยทัศน์ในการพัฒนาบุคลากร AI ผ่านโครงการ Super AI Engineer เพื่อสร้าง AI Workforce ที่แข็งแกร่ง โดยแบ่งออกเป็น 3 Tracks ที่ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมและงานวิจัย ได้แก่ 1) AI Innovator มุ่งเน้นการสร้างสรรค์โซลูชัน AI โดยใช้ซอฟต์แวร์ เครื่องมือ และ API ที่มีอยู่เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการสำหรับภาคส่วนต่าง ๆ 2) AI Engineer Super AI Engineer สำหรับวิศวกร AI ที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาโมเดล AI เพื่อการใช้งานจริง และ 3) AI Researcher มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการวิจัย AI และผลงานทางวิชาการในระดับนานาชาติ

นายนนทวัตต์ สาระมาน ประธานคณะทำงาน Cyber Security และผู้แทนสมาคมส่งเสรินวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์ (CIPAT) เน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่เกิดจากรูปแบบการใช้รหัสผ่านในการเข้าถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลในประเทศไทย โดยตระหนักถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างเร่งด่วน และชี้ให้เห็นถึงผลของการขาดความพร้อมหรือมาตรการรองรับที่เหมาะสมซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียหรือรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลในอนาคต เพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ คณะทำงาน Cyber Security ได้วางกรอบการดำเนินงานที่ครอบคลุม 1)การผลักดัน Ecosystem Cybersecurity ผ่านการสร้างความตระหนักรู้ 2) พัฒนาทักษะบุคลากรด้าน Cybersecurity 3) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูง เช่น Post-Quantum Cryptography (PQC) และ 4) ส่งเสริม MISP (Malware Information Sharing Platform) 

นายผรินทร์ สงฆ์ประชา ประธานคณะทำงาน E-Commerce และผู้แทนสมาคผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย (THECA) ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดการซื้อขายบน Social Commerce เช่น TikTok Live ในประเทศไทย โดยระบบชำระเงินหลักที่ใช้ในปัจจุบันมี 3 รูปแบบ ได้แก่ พร้อมเพย์ การเก็บเงินปลายทาง (COD) และการชำระผ่านบัตรเครดิตที่ยังคงมีการใช้งานในระดับคงที่ ทั้งนี้ THECA จึงมีกิจกรรมหลักที่สนับสนุนการเติบโตของ E-commerce ไทย อาทิ Business Matching and Networking, Sharing Key Takeaways, Presenting Expertise to Government การจัด THECA e-Commerce Awards และการขยายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ

การประชุมคณะกรรมการสภาดิจิทัลฯ ครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของสภาดิจิทัลฯ ในการผลักดันนโยบายด้านดิจิทัลของประเทศในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัล การสนับสนุนมาตรการ Data Center เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และการพัฒนาตัวชี้วัด IMD เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก