วันที่ 16 ธันวาคม 2568 — สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (สภาดิจิทัลฯ) โดย ม.ร.ว.นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวม 12 หน่วยงาน จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่อง “ความร่วมมือในการส่งเสริมการเข้าถึงเนื้อหาและบริการดิจิทัลโดยสะดวกถ้วนหน้า” เพื่อยกระดับการเข้าถึงบริการดิจิทัลของประเทศอย่างเท่าเทียมสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง โดย นางสาวอรดา วงศ์อำไพวิทย์ ผู้ช่วยประธานและหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย สภาดิจิทัลฯ ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ ณ ห้องแมนดาริน C โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพฯ
พิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ประกอบด้วยหน่วยงานภาคี ได้แก่ สภาดิจิทัลฯ, สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.), มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ, สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.), สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.), สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.), สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (DGA), กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย
ความร่วมมือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงเนื้อหาและบริการดิจิทัลจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างทั่วถึง โดยมุ่งผลักดันการพัฒนาเนื้อหาและบริการดิจิทัลที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ ตามแนวทางของ Web Accessibility Initiative (WAI) ภายใต้มาตรฐานของ World Wide Web Consortium (W3C) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลด้านการเข้าถึงเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ตลอดจนการจัดทำเอกสารแนวปฏิบัติและเครื่องมือสนับสนุนการพัฒนาเว็บไซต์และโมบายแอปพลิเคชันให้เป็นไปตามมาตรฐานดังกล่าว
นอกจากนี้ ความร่วมมือยังมุ่งสร้างความตระหนักรู้และแรงจูงใจให้กับหน่วยงานและผู้ประกอบการ ในการพัฒนาการเข้าถึงเนื้อหาและบริการดิจิทัลที่ครอบคลุมกลุ่มคนพิการและกลุ่มเปราะบางทุกประเภท รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันผลักดันกฎหมายและนโยบายที่เอื้อต่อการเข้าถึงบริการดิจิทัลอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
ในช่วงการนำเสนอแนวทางการสนับสนุนจากภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ม.ร.ว.นงคราญ ชมพูนุท ประธานสภาดิจิทัลฯ กล่าวว่า สภาดิจิทัลฯ มุ่งทำหน้าที่เป็นกลไกเชื่อมโยงระหว่างนโยบายภาครัฐ เทคโนโลยีของภาคเอกชน และความต้องการที่แท้จริงของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้การพัฒนาดิจิทัลของประเทศเป็นไปอย่างครอบคลุมและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อมเน้นย้ำว่าการเข้าถึงเนื้อหาและบริการดิจิทัลอย่างถ้วนหน้า ไม่ใช่เพียงประเด็นด้านเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของ สิทธิ โอกาส และคุณภาพชีวิตของประชาชน
ประธานสภาดิจิทัลฯ ยังได้กล่าวถึงบทบาทขององค์กรในการผลักดันมาตรฐานดิจิทัล การสร้างความตระหนักรู้ และการทำงานร่วมกับเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐสามารถพัฒนาบริการดิจิทัลที่เป็นมิตร เข้าใจง่าย และเข้าถึงได้จริง สำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ และประชาชนทั่วไป
ภายในงานมีการจัดเวทีเสวนาในหัวข้อ “ทิศทางการขับเคลื่อนบริการสารสนเทศภาครัฐ ให้เข้าถึงโดยสะดวกถ้วนหน้าตามมาตรฐานสากล” โดยภาคีเครือข่ายสำคัญอย่าง สวทช., สดช., ก.พ.ร. และ DGA ซึ่งสะท้อนบทบาทความร่วมมือระหว่างภาครัฐ นักวิชาการ และหน่วยงานด้านมาตรฐานดิจิทัล ในการผลักดันการพัฒนาบริการภาครัฐให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม
การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของความร่วมมือเดิมระหว่าง 5 หน่วยงานหลัก ได้แก่ สภาดิจิทัลฯ, สวทช., กสทช., สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ซึ่งได้ร่วมกันผลักดันมาตรฐานสากล WCAG จนเกิดเครื่องมือและกลไกที่สามารถยกระดับการเข้าถึงเว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรม อันนำไปสู่การขยายความร่วมมือเป็นเครือข่าย 12 หน่วยงานในปัจจุบัน เพื่อร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มและกลไกสนับสนุนการเข้าถึงบริการสารสนเทศและการสื่อสารภาครัฐ ภายใต้แนวคิดรัฐบาลดิจิทัลและระบบราชการ 4.0 โดยมุ่งยกระดับคุณภาพบริการภาครัฐ และสร้างสังคมดิจิทัลที่ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมและยั่งยืน
